f
title
แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 3
Chiangmai3 Highway District
วิสัยทัศน์ : พัฒนาสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ ควบคู่การบำรุงรักษาทางหลวง
ดอยอ่างขาง
ลงวันที่ 15/01/2562

ดอยอ่างขาง “Doi Ang Khang National Park”

          ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอฝาง ที่กม.25+500 ทางหลวงหมายเลข 1249 ห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 160 กม. เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศเหนือ 137 กม. แยกซ้ายเข้าไปอีก 25 กม. ดอยอ่างขางเป็นเทือกดอยสูงติดกับสันเขาพรมแดนประเทศพม่า จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวไปเยือนดอยอ่างขางคือการไปเที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาวภายในโครงการหลวงอ่างขาง สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขางได้รับการจัดตั้งเมื่อปี 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อวิจัยพืชเมืองหนาวเพื่อส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกทดแทนฝิ่นและหยุดการทำลายป่าดอยอ่างขางมีลักษณะเป็นแอ่งที่ราบในหุบเขาลักษณะเหมือนท้องกระทะหรือเหมือนอ่างอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 1,400 เมตร ภายในโครงการมีสถานที่น่าสนใจได้แก่ แปลงทดลองปลูกพืชผลไม้เมืองหนาว ได้แก่ สวนบ๊วย สวนท้อ สตรอว์เบอร์รี กีวี่ พลับ สาลี่ ภายในโครงการหลวงมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ สวนแปดสิบ เรือนดอกไม้ โรงเรือนกุหลาบ แปลงผักซากุระ ป่าเมเปิล พระตำหนักอ่างขาง สวนบอนไซ

ประวัติดอยอ่างขาง

          โดยเรื่องกำเนิดของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางแห่งนี้ เป็นเกร็ดประวัติเล่าต่อกันมาว่า ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จทางเฮลิคอปเตอร์ผ่านยอดดอยนี้และทอดพระเนตรลงมาเห็นหลังคาบ้านคนอยู่กันเป็นหมู่บ้าน จึงมีพระดำรัสสั่งให้เครื่องลงจอด เมื่อเสด็จพระราชดำเนินลงมาทอดพระเนตรเห็นทุ่งดอกฝิ่นและหมู่บ้านตรงนั้นก็คือหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอ ซึ่งในสมัยนั้นยังไว้แกละถักเปียยาว แต่งกายดำ สะพายดาบ  ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นๆของประเทศได้  พระองค์มีพระราชดำรัสที่จะเป็นแปลงทุ่งฝิ่นให้เป็นแปลงเกษตร

          จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่มีภูมิอากาศที่หนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลย และสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่า ชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง  และทรงทราบว่าสถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่ในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง

          จากนั้นทรงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี เป็นผู้สนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ผัก ไม้ดอกเมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขา ในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง”

          “อ่างขางในอดีตวันนั้นสวยมากด้วยดอกฝิ่นและภูมิประเทศ เราได้เห็นดอกท้อ แอปเปิลป่า และทราบว่าอากาศหนาวมากเราได้คุยกับผู้ที่ไปตั้งร้านขายของ ซื้อฝิ่นเขาขึ้นมาอีกทางหนึ่ง ห่างจากค่ายทหารจีนโดยที่ชาวเขาส่วนมากอพยพไปที่อื่น อ่างขางจึงมีที่เหลือให้หญ้าคาขึ้นยู่มาก ด้วยเหตุนี้จึงโปรดเกล้าฯให้ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขางขึ้นเมื่อ 30 ปีมานี้ สถานีหลวงดอยอ่างขางได้ทำวิจัยได้ ” ม.จ. ภีสเดช  รัชนี กล่าว

          โดยคำว่า “อ่างขาง” ภาษาเหนือหมายถึง อ่างรูปสี่เหลี่ยมตามลักษณะของดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นดอยที่มีรูปร่างของหุบเขายาวล้อมรอบประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 3 กิโลเมตร ตรงกลางของอ่างขางเดิมเป็นภูเขาสูงเช่นเดียวกับบริเวณโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูนเมื่อถูกน้ำฝนชะก็จะค่อยๆละลายเป็นโพรงแล้วยุบตัวลงกลายเป็นแอ่ง มีพื้นที่ราบความกว้างไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

          สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ พืชน้ำมัน โดยมุ่งที่จะผลิตผลที่มีคุณค่าพอที่จะทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขาและทำการส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมแก่ชาวเขาในบริเวณที่ใกล้เคียง ปัจจุบันดอยอ่างขางได้เปลี่ยนสภาพจากภูเขาที่ถูกตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ผลไม้เมืองหนาวกว่า 12 ชนิด ได้แก่ ท้อ บ๊วย สตรอว์เบอร์รี สาลี่ ราสเบอรี่ พลับ กีวี ลูกไหน เป็นต้น ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด เช่น แครอท ผักสลัดต่างๆ ฯลฯ และไม้ดอกเมืองหนาวมากกว่า 20 ชนิด เช่น คาร์เนชั่น กุหลาบ แอสเตอร์ เบญจามาศ ฯลฯ จำหน่ายผลิตผลตามฤดูกาลที่ปลูกในโครงการให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล

          สำหรับบนดอยอ่างขางมีชาวไทยภูเขาเผ่าจีนฮ่อ ไทยใหญ่ มูเซอดำ และปะหล่อง อาศัยอยู่โดยรอบกว่า 600 ครัวเรือนใน 6 หมู่บ้าน ส่วนสภาพอากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16.9 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม  อากาศเย็นจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเครื่องกันหนาวมาให้พร้อม เช่น หมวก ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อกันหนาว

กิจกรรมท่องเที่ยวบนดอยอ่างขาง

ชมแปลงสาธิต ผัก ผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวภายในศูนย์ฯ สามารถขับรถวนเป็นวงกลม ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ยานพาหนะคันละ 50 บาท

ชมสวนบอนไซ  อยู่ในบริเวณสถานีฯ เป็นแหล่งรวมพันธุ์ไม้เขตอบอุ่นและเขตหนาวทั้งในและต่างประเทศ ปลูก ดัด แต่ง โดยใช้เทคนิคบอนไซ สวยงามน่าชม และในบริเวณเดียวกันมีสวนสมุนไพรด้วย  ฤดูท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – มกราคม

เยี่ยมหมู่บ้านหลวง  สัมผัสชีวิตชาวจีนฮ่อ ชาวหมู่บ้านหลวงเป็นชาวจีนยูนานที่อพยพมาจากประเทศจีนในสมันสงครามโลกครั้งที่ 2 และประกอบอาชีพก้านการเกษตรกรรมเป็นหลัก อาทิ ปลูกผักผลไม้ เช่น พลัม ลูกท้อ และสาลี่

เยี่ยมหมู่บ้านนอแล  สัมผัสวิถีชีวิตชาวปะหล่องอดีตชนเผ่าดั้งเดิมของพม่า มีผลิตภัณฑ์หัตถกรรมของกลุ่มแม่บ้าน จำหน่ายและเยี่ยมฐานปฏิบัติการนอแล ชมชายแดนไทย-พม่า ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย – พม่า แต่เดิมคนกลุ่มนี้อยู่ในพม่าและพึ่งอพยพมาที่นี่ได้ประมาณ 15 ปี คนที่นี่เป็นชนเขเผ่าปะหล่องเชื้อสายพม่า ซึงมีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง นับถือศาสนาพุทธ ทุกวันพระผู้คนที่นี่หยุดอยู่บ้านถือศีล จากหมู่บ้านนี้สามารถทองเห็นทิวทัศน์สวยงามของธรรมชาติบริเวณพรมแดนไทย – พม่า

เที่ยวหมู่บ้านขอบด้ง  สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาเผ่ามูเซอ มีมัคคุเทศก์น้อยพาเยี่ยมชมภายในหมู่บ้าน เป็นที่ที่ชาวเขาเผ่ามูเซอดำและเผ่ามูเซอแดงอาศัยอยู่ร่วมกัน คนที่นี่นับถือผี มีวัฒนธรรมและความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย  หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการส่งเสริมจากโครงการหลวงในด้านเกษตรกรรมและด้านหัตถกรรมพื้นเมือง (เช่น อาบูแค เป็นกำไลถักด้วยหญ้าไข่เหามีสีสันและลวดลายในแบบของมูเซอ ) บริเวณหน้าหมู่บ้านจะมีการจำลองบ้านและวิถีชีวิตของชาวมูเซอ โดยชาวบ้าน ครู และนักเรียนบ้านขอบด้ง ชวยกันสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มีโอกาสเรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรมของหมู่บ้าน  โดยที่ไม่เข้าไปรบกวนความเป็นส่วนตัวของเขาเกินไปและยังมีโครงการมัคคุเทศก์น้อย ที่อบรมเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านขอบด้ง เพื่อช่วยอธิบายวิถีชีวิตของพวกเขาให้ผู้มาเยือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกและสร้างความรักท้องถิ่นให้เด็กๆด้วย

เที่ยวหมู่บ้านคุ้ม  ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฯเป็นชุมชนเล็กๆ ประกอบด้วยผู้อยู่อาศัยหลายเชื้อชาติอยู่รวมกัน อาทิ ชาวไทยใหญ่ ชาวพม่าและชาวจีนฮ่อ ซึ่งได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้และเปิดร้านค้าบริการแก่นักท่องเที่ยว

เดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะสั้น  ประมาณ 2 กิโลเมตร  จะได้ชมความงามธรรมชาติของผืนป่าปลูกทดแทนน้ำตกเล็กๆและกุหลาบพันปี

ขี่จักรยานเสือภูเขาชมธรรมชาติ  จากบ้านคุ้มไปยังบ้านนอแลและจากบ้านหลวงไปยังบ้านผาแดง

กิจกรรมดูนก  ที่มีทั้งนกประจำถิ่นและนกหายากต่างถิ่นให้ศึกษาหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 1,000 สายพันธุ์  จุดที่เหมาะคือสถานีป่าแม่เผอะและบริเวณรอบๆรีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง

ขี่ฬ่อล่องไพร  ชมความงดงามของธรรมชาติในบรรยากาศเย็นสบายรอบๆดอยอ่างขาง ด้วยการนั่งบนหลังฬ่อ (การนั่งบนหลังฬ่อต้องนั่งหันข้าง เนื่องจากอานกว้างไม่สามารถนั่งคร่อมอย่างการขี่ม้าได้) หากสนใจกิจกรรมนี้ต้องติดต่อกับรีสอร์ทล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพราะปกติชาวบ้านจะนำฬ่อไปเป็นพาหนะขนผลิตผลทางการเกษตรด้วย

จุดชมวิว-จุดกิ่วลมชนิด  เป็นลานชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตกดิน และสัมผัสทัศนียภาพของถนนทางขึ้นดอยอ่างขาง อยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงทางแยก ซึ่งจะไปหมู่บ้านปะหล่องนอแลทางหนึ่งและหมู่บ้านมูเซอของด้งทางหนึ่ง  สามารถชมวิวได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก หรือทะเลหมอก  มองเห็นทิวเขารอบด้านและหากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรหลวงอ่าวขางด้วย

ที่พักและร้านอาหาร

          -  มีร้านอาหารและเครื่องดื่มภายในสโมสรอ่างขาง

          หมายเหตุ  กรุณาสำรองที่พักล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 เดือน โทร. 0-5345-0107-9

การเดินทางสู่ดอยอ่างขางสามารถเดินทางได้  2  เส้นทาง

          -  เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง เลี้ยวซ้ายทางแยกตำบลเมืองงาย ตรงเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 1178 ผ่านบ้านอรุโณทัยไปยังศูนย์ฯ

          -  เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ถึงกิโลเมตร 137 แยกบ้านปางควาย เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1249 ตรงไปประมาณ 25 กิโลเมตร

          หมายเหตุ  ใช้รถยนต์ได้ทุกประเภท (ควรเช็คสภาพเครื่องยนต์ก่อนขึ้นเขา และผู้ขับขี่ควรมีประสบการณ์ เพราะเส้นทางมีความชันมาก) หรือใช้บริการรถยนต์รับจ้าง จุดจอด ณ ปากทางขึ้นดอยอ่างขาง ราคาเหมา 1,000 – 1,500 บาท

สถานที่ติดต่อ

          - สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง บ้านคุ้ม หมู่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50320 โทร. 0-5345-0101-9

 


'